ที่พึ่งพิงสุดท้ายของผู้ป่วยโรคมะเร็ง ณ วัดคำประมง จังหวัดสกลนคร

เปรียว
โดย -
0

 ในวันที่ 9-13 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสติดตามคุณแม่ไปเป็นจิตอาสาที่วัดคำประมง จ.สกลนคร ซึ่งวัดดังกล่าวถูกจัดตั้งขึ้นเป็น อโรคยศาล (สถานพยาบาล) ซึ่งอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบและการดูแลจาก พระอาจารย์ปพนพัชร์ จิรธัมโม เจ้าอาวาส ผู้ป่วยที่มาที่นี่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น สถานที่แห่งนี้จัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2547 จนถึงปัจจุบัน และได้รับการจัดตั้งเป็นโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ผสมผสานด้านมะเร็ง สกลนคร อโรคยศาลวัดคำประมง

บริเวณที่ทำการไว้ติดต่อและเป็นสถานที่สวดมนต์เช้า-เย็น พร้อมกับรับยาต้ม

ลังจากที่ไปถึงหน้าที่ของผมและคุณแม่คือช่วยดูแลผู้ป่วยและจิตอาสาท่านอื่นๆของวัด แม่จะทำหน้าที่นวด(แต่ไม่นวดให้ผู้ป่วยโรคมะเร็ง) เพราะแม่จบมาทางด้านนวด ส่วนผมก็ให้บริการอบสมุนไพร พอกตา พอกเข่า ให้กับผู้ป่วยและญาติของผู้ป่วย รวมทั้งพนักงาน คนงาน ที่ช่วยเหลืองานอยู่ในวัด
บรรยากาศการอบสมุนไพร

เข้ากระโจมอบสมุนไพร

คุณแม่ สอนเรื่องนวดให้กับน้องๆที่มาฝึกงาน

คุณแม่ สอนเรื่องนวดให้กับน้องๆที่มาฝึกงาน

กิจวัตรประจำวัน เริ่มตั้งแต่
07.30 น. ใส่บาตรที่จุดรวมบริเวณเรือนพัก "เหลืองรังษี"
08.30 น. สวดมนต์เช้า ที่อโรคยศาล หลังสวดมนต์เสร็จรับยาต้มเช้า
20.00 น. สวดมนต์เย็น ที่อโรคยศาล หลังสวดมนต์เสร็จรับยาต้มเย็น

ในระหว่างวันคุณแม่และผมก็ให้บริการกับทุกๆคน ซึ่งการมาอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้เคร่งครัดมาก เพราะเข้าใจว่าการมานอนวัดจะต้องตื่นตั้งแต่ ตีสามตีสี่ เพื่อมาทำวัตรเช้า นั่งสมาธิ เดินจงกลม แต่ที่วัดคำประมง พอมาอยู่ค่อนข้างสบาย ผู้ป่วยก็ไม่ต้องรีบตื่น มีเวลาให้ทานข้าวก่อนไปทำวัตรเช้า-เย็น ในส่วนอาหารการกินผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยจะทำกินกันเอง หากผู้ป่วยรายไหนที่ทุนทรัพย์น้อย ทางวัดฯ ก็มีโรงครัวไว้ให้บริการ

ยาต้มต่างๆ ที่ให้เช้า-เย็น แก่ผู้ป่วย โดยยาที่ให้ขึ้นอยู่กับว่าผู้ป่วยเป็นมะเร็งชนิดไหน

หลังใส่บาตรช่วงเช้าเสร็จ คุณแม่จะพา พี่ๆ คุณน้า คุณอา บริหาร ออกกำลังกาย

ทุกเช้าและเย็น ผมก็จพมารับยาต้มเช่นเดียวกัน ผมได้ยา 
 ตัวคือ ยาน้ำสาบานและยาบำรุงธาตุ


สำหรับใครที่ต้องการมา ผมเอาแผนที่ไว้ให้ที่ด้านล่าง ส่วนใครที่ต้องการบริจาคสามารถสแกน QR CODE เพื่อบริจาครวมทั้งได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี
บริจาคช่วยค่าใช้จ่ายวัดในการดูแลคนไข้
ลอดระยะเวลา 5 วัน ที่ผมได้อยู่ที่แห่งนี้ความรู้สึกมันหดหู่และเศร้าใจมาก เพราะผู้ป่วยที่อยู่ที่นี่ทุกคนต่างรู้ว่าตัวเองจะอยู่ได้ไม่นาน หลายๆคนก็ปลงและยอมรับกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น อีกหลายคนก็ยังต้องต่อสู้กับความเจ็บและทรมาน ร้องโหยหวนตลอดเวลา แต่อย่างน้อย ณ ที่แห่งนี้ ยังเป็นความหวัง ที่พักพิง ที่ที่คอยดูแลทุกๆชีวิต ไปจนกว่าจะหมดลมหายใจ

ขอให้ทุกคนมีปาฏิหาริย์หายจากโรคร้ายโรคนี้ ถ้ามีโอกาสผมจะไปเป็นจิตอาสาอีกนะครับ

แสดงความคิดเห็น

0ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น (0)

#buttons=(ตกลง) #days=(20)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้. อ่านเพิ่มเติม
Ok, Go it!